PRK

การรักษาด้วย PRK หรือที่เรียกว่า photorefractive keratectomy เป็นการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ประเภทหนึ่งที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาการมองเห็น เช่น สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง PRK เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมในการผ่าตัดเลสิค เนื่องจากไม่ต้องสร้างแผ่นปิดกระจกตา การรักษาแบบPRK ได้รับการพัฒนาในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และประสบความสำเร็จในการดำเนินการกับผู้คนนับล้านทั่วโลก การรักษาด้วย PRK ได้รับการอนุมัติจาก FDA จึงถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนการรักษาแบบนี้มักจะทำในสถานที่นอกโรงพยาบาล และคนส่วนใหญ่อาจรู้สึกไม่สบายตาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในระหว่างที่ผ่าตัดและหลังการผ่าตัด การรักษาด้วย PRK มักจะเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที และคนส่วนใหญ่จะรู้สึกได้ว่าการมองเห็นของพวกเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายในสองสามวัน การรักษาด้วย PRK จึงถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขการมองเห็นโดยไม่ต้องผ่าตัด

การรักษาแบบ PRK

การรักษาจะเริ่มจากการที่ใช้เลเซอร์เพื่อปรับปรุงการมองเห็นซึ่ง PRK หรือ photorefractive keratectomy เป็นการผ่าตัดหักเหแสงชนิดหนึ่งที่ใช้ในการแก้ไขสายตาสั้น ขั้นตอนของ PRK เกี่ยวข้องกับการใช้เลเซอร์เพื่อเอาเนื้อเยื่อออกจากกระจกตา ซึ่งเป็นพื้นผิวด้านหน้าที่ชัดเจนของดวงตา การรักษาประเภทนี้แตกต่างจากการผ่าตัดสายตาที่ผิดปกติแบบอื่น เช่น เลสิค เพราะจักษูแพทย์จะไม่กรีดในลูกตา โดยปกติแล้ว PRK จะทำกับผู้ป่วยนอกและใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ การพักฟื้นหลังจากการรักษาแบบ PRK อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ป่วยอาจมีอาการต่างๆ เช่น ไวต่อแสง มีแสงสะท้อน และมองเห็นไม่ชัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมองเห็นได้เกือยร้อยเปอร์เซ็นหลังการรักษา แม้ว่าบางคนอาจต้องใช้แว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์สำหรับการขับรถตอนกลางคืนหรือสำหรับการอ่านงานอย่างละเอียดที่ต้องเพ่งสายตามาก ๆ แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าารรักษาแบบ PRK เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงการมองเห็น และลดหรือแม้แต่ขจัดความจำเป็นในการใส่แว่น

PRK เหมาะกับใครบ้าง

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าการรักษาแบบนี้เป็นการรักษาที่เกี่ยวกับการใช้เลเซอร์เพื่อปรับการมองเห็นของผู้ป่วย การรักษาประเภทนี้เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่กับทุกคนเสมอไป ดังนั้นนี่จึงเป็นคุณสมบัติหลัก ๆ ของผู้ที่เหมาะสมในการเข้ารักษาแบบ PRK

  • PRK ใช้รักษาเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี เท่านั้น เพราะดวงตายังมีการเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ จนถึงอายุ18 หลังการรักษา ตาจะยังคงต้องใช้เวลารักษามันเองและมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเวลาหลายเดือน จึงต้องรอให้ตาของคุณเติบโตเต็มที่ก่อนทำ PRK
  • การรักษาด้วย PRK ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคตาแห้ง เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อการรักษาดวงตาหลังการผ่าตัด
  • ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรเพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกที่กำลังพัฒนาหรือทำให้เกิดปัญหาในการผลิตน้ำนม นอกจากนี้ การรักษาด้วย PRK อาจทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ได้ยากขึ้นในอนาคต หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรปรึกษาทางเลือกอื่นในการแก้ไขการมองเห็นกับแพทย์ก่อน
  • PRK อาจไม่แนะนำสำหรับผู้ที่เคยผ่านการรักษาด้านดวงตามาก่อนเช่นเลสิค เนื่องจากอาจไม่มีประสิทธิภาพมากพอ และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือมีปัญหาในการมองเห็นเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่เคยผ่านศัลยกรรมตามาก่อนด้วย
  • ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่ติดเชื้อที่ตาหรือมีอาการปวดเรื้อรัง เนื่องจากเลเซอร์ที่ใช้ในขั้นตอนนี้อาจทำให้อาการเหล่านี้รุนแรงขึ้นได้ หากคุณคิดว่าตัวเองอาจเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วย PRK ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าเหมาะกับคุณหรือไม่

จะเห็นได้ว่าการรักษาด้วย PRK เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาด้านการมองเห็นและลดความจำเป็นในการสวมแว่นตา อย่างไรก็ตาม การรักษาแบบนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ฉะนั้นหากคุณคิดว่าคุณอาจเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับ PRK ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าการรักษาชนิดนี้เหมาะกับคุณหรือไม่